Share Button

“เอก สรพงษ์ ชาตรี” มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในประวัติศาสตร์ ชาวไทยรวมพลังร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณและอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ท่านมุ้ย ท่านให้ดูแลความเรียบร้อย ให้ทำความเข้าใจ เวลาถ่ายแต่ละคนจะต้องทำตัวอย่างไร ถอดหมวก หุบร่ม ถอดแว่นตาดำ ทำความเข้าใจกับประชาชนเพื่อให้ทุกคนปฏิบัตรได้ถุกต้อง ไม่มีใครทนร้อนไม่ได้ ทนแสงแดดไม่ได้เพื่อถวายพ่อหลวง เพราะฉะนั้นทุกคนจึงพร้อมใจถอดแว่นดำ ถอดหมวก หุบร่ม แม้แต่ตอนฝนตกก็ยังไม่มีคนกางร่ม ทุกคนร่วมใจกันทำเพื่อพ่อหลวง ภาพจะได้ออกมาเป้นอันหนึ่งอันเดียวกัน ไม่มีใครใส่แว่นดำขณะถ่ายทำ ด้วยรักและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
1
“ตอนนี้ท่านมุ้ยให้ผมสร้างพระนอนถวายบูรพมหากษัตริย์สยามประเทศทุกพระองค์ จะสร้างไว้ที่อำเภอสีคิ้ว ที่เดียวกับวัดที่สร้างหลวงปู่โต เราจะไปซื้อที่ขยายจะให้อาจารย์เผ่า สุวรรณศักดิ์ศรี ที่เป็นศิลปินแห่งชาติออกแบบวิหารตัวอาคาร” “สร้างพระนอนเพราะว่าตอนที่พระนเรศวรทรงทำยุทธหัตถี ท่านทรงไหว้ขอพรพระนอนที่วัดป่าโมกข์ แล้วในประเทศพม่าที่พระนเรศวรประทับอยู่ ที่ท่านถูกจับไปเป็นเชลย บริเวณนั้นมีพระนอนเยอะ พระพุทธไสยาสน์เป็นปางที่พระพุทธเจ้าโปรด เป็นปางที่เหมือนปราบทิฐิ นอนปราบทิฐิ ตอนนี้ออกแบบองค์เล็ก ๆ ไปประมาณเมตรหนึ่ง กำลังจะขยายแบบเป็น 99 เมตร คิดว่าน่าจะเสร็จไม่เกิน 10 ปีนี้ไป เพราะในหลวงรัชกาลที่ ๙ พวกเราข้าแผ่นดินต้องก้าวไปข้างหน้า ไม่มีถอยหลัง สิ่งที่พ่อทำไว้ ไม่มีมนุษย์คนไหนทำได้ ผมคิดอย่างนั้นนะ 4,000 กว่าโครงการ 4,000 กว่าเรื่องล้วนแต่มาจากมันสมองของพระองค์ และทีมงานที่จงรักภักดีต่อพระองค์ผมว่าไม่ธรรมดา”
ผมเคยเข้าเฝ้าฯรับรางวัลพระราชทานรางวัลตุ๊กตาทอง 2519 ผมได้รับรางวัลจากพระหัตถ์ท่าน ตอนนั้นอายุ 24 – 25 ปี เป็นครั้งหนึ่งในชีวิต เป็นความรู้สึกที่บรรยายไม่ถูกว่ามันประทับใจมากอย่างไร หลัง ๆ ก็ได้มีโอกาสตามท่านมุ้ย เลยได้ตามไปกราบพระบาท ท่านมุ้ยก็แนะนำนี่สรพงษ์ ขับรถมาให้พ่ะย่ะค่ะ ก็ไปเข้าเฝ้าอย่างไม่เป็นทางการอยู่หลายครั้งเหมือนกัน” “พระองค์ท่านเป็นคนทำอะไรทำจริง พระองค์มีทุกอย่างแล้ว ผู้คนสรรเสริญ แต่ก็เลือกทำให้ประชาชนของพระองค์มีความสุข อย่างพวกเราทำ ก็อาจทำเอาลาภ เอายศ เอาตำแหน่ง เพื่อหน้าที่การงานที่สูงขึ้น แต่สำหรับพระองค์ท่านเองมีหมดแล้ว มีทั้งลาภ ทั้งยศ ผู้คนชื่นชม เพียงแต่ว่าสิ่งที่พระองค์ท่านทำเพื่อประชาชนนั้น พระองค์ทำแล้วมีความสุข ผมเคยไปถ่ายหนังที่ดอยตุง ไม่มีต้นไม้เลย กลับไปวันนี้มีทั้งน้ำ ผลหมากรากไม้ ประชาชนไม่ต้องปลูกฝิ่น ไม่ต้องหนี ไม่ต้องอยู่อย่างล่องลอย เขามีความสุข ตรงไหนที่แห้งแล้ง เมื่อพระองค์ท่านไปกลับมาก็จะร่มเย็น ตรงไหนที่ถนนไม่ลาดยาง ท่านเสด็จไปเมื่อไหร่ที่นั่นจะเจริญ ในหลวงไปไหนที่ตรงนั้นจะเจริญ เป็นเรื่องที่น่าแปลก ท่านเอาน้ำไปหยดลงตรงไหน ต้นไม้ก็ขึ้น คนธรรมดาอย่างเรา ๆ ทำไม่ได้หรอก”

Facebook Comments
Share Button